พระอาจารย์สาคร อธิปญฺโญ
โดย จิรปภา
เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
จะดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวทำ จะสูงจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
สำนักปฏิบัติธรรมบ้านไร่ชายเขา(ธ) ต.ลำสมพุง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
“วัดจะดีมีหลักฐานเพราะบ้านช่วย บ้านจะสวยเพราะมีวัดดัดนิสัย
วัดกับบ้านผลัดกันช่วยก็อวยชัย แต่ขัดกันเมื่อไรก็บรรลัย”
สำหรับเรื่องราวของหลวงพ่อสาคร
เจ้าสำนักบ้านไร่ชายเขา เคยได้นำเสนอตีพิมพ์ในนิตยสารผู้พิทักษ์ปวงชน
ติดต่อกันสองฉบับไปแล้ว แต่ฉบับนี้ก็จะมาเขียนเรื่องราวที่เป็นไปจริงๆในปัจจุบัน
ซึ่งก็เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานพอสมควร ปีกว่าๆเห็นจะได้และก็สืบต่อมาจนถึงปลายทางเรื่อง
ซึ่งหลวงพ่อสาคร ตามที่ได้อยู่ใกล้ชิดท่านมาก่อน
ท่านเป็นพระที่อารมณ์ดีและก็มีเมตตามากกับลูกศิษย์ทุกๆคนแม้บางครั้งท่านก็บ่นแต่ก็ด้วยความรักเมตตาไม่ได้คิดร้ายอะไรกับใครเลย
ขันติธรรมนำทางสว่าง
คนที่คิดร้ายกับท่านถึงขั้นจองล้างจองพลาญกันให้ตายกันเลยก็มี
แต่แปลก ท่านกลับนิ่งเฉยไม่โต้ตอบ ขนาดมายืนชี้หน้าด่ากันตรงๆ ไม่ว่าท่านจะทำอะไร
ก็ดูขัดหูขัดตาไปหมด ญาติโยมนำผ้าป่าฯมาถวายก็กล่าวหาว่าหาเงิน หลอกลวงชาวบ้าน
ทั้งที่ลูกศิษย์ท่านนำมาถวายเอง รถยนต์ก็เหมือนกันลูกศิษย์มีศรัทธานำรถบิคอัพแคบโตโยต้า
รุ่นวีโก้นำมาถวายให้ก็กล่าวหาท่านว่าไปเอามาจากไหนพระรวยเอาเงินเอาทองไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
ทั้งๆที่โยมลูกศิษย์มีศรัทธานำมาถวาย ลองคิดดู คนมีศรัทธาถวายรถใหม่ๆทั้งคัน
แต่นี้เป็นพวกผีเปรตคอยแต่อิจฉาพระ เห็นท่านได้ดีมีสุขก็ไม่ได้ มนุษย์หนอมนุษย์
ไอ้เวรเอ้ย!!ไอ้เปรตเกิดมามุ่งแต่สร้างเวรสร้างกรรม
บุญบาปไม่รู้เลย ตายไปเมืองนรกยังไม่อยากรับเลยพระความระยำของมันที่ทำกับพระ
มันชอบนักที่ได้ทำลายคนดีๆพระดีๆแต่ตัวมันเอง คดโกง คอรัปชั่น มีเมียน้อย
เที่ยวผับ อาบอบนวด มั่วแต่น้ำกาม กลับไม่มองเห็นความชั่วของตัวเอง
ผจญมารผู้ลามก
เมื่อต้นปี2556
พระอาจารย์สาคร ได้มีเรื่องร้องเรียนว่าท่านมีความประพฤติไม่ดีงาม เช่น
เปิดเครื่องขยายเสียงดังรบกวนคนในหมู่บ้าน(บ้านกับสำนักห่างกัน1.5กิโลเมตร)
ท่านไม่ปฏิบัติเอาแต่ซ่อมรถ(ท่านมีรถเก๋งเก่าๆเป็นNiSSAN SUNNYคันหนึ่งเก่า20กว่าปีแล้ว มันเสียก็ต้องซ่อมจะให้ทำไงจริงไหม
จะให้อู่ซ่อม ก็ต้องเอารถมาลากไป (อู่กับสำนักห่างกัน40กิโลเมตร) แล้วจะเอาที่ไหน
นี้คือปัญหาพระทำเองก็เป็นพระไม่ดี พูดไปได้ และมีอีกหลายเรื่อง
ที่ไม่น่าเป็นประเด็นสาระสำคัญอะไรเลยที่จะไปไล่ท่านให้ไปอยู่ที่อื่น
ขนาดไปฟ้องทางพระผู้ใหญ่ ว่าท่านมีความประพฤติไม่เหมาะสม
พระได้ฟังแล้วก็ไม่รู้จะเอาผิดตรงไหน ถ้าท่านไปนอนกับสีกา
หรือไปเอาเงินเอาทองโกงเค้ามาก็จะได้จับท่านสึกให้
สุดท้ายก็หาเรื่องท่านเกี่ยวกับการสร้างสำนักสงฆ์ว่าไม่ถูกต้อง
เพราะจริงๆก็ไม่ถูกเสียด้วยแต่ก็กำลังเดินเรื่องและทำเรื่องการขอใช้พื้นที่ในการสร้างวัดกับป่าไม้อยู่
แต่ด้วยความอาฆาตพยาบาท ก็ไปแจ้งตำรวจ ร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้
จริงๆตำรวจและป่าไม้ก็ไม่อยากทำอะไรเพราะทางสำนักกำลังดำเนินเรื่องขอใช้พื้นที่อยู่
มันก็เลยต้องวิ่งไปถึงอธิบดีป่าไม้ ร้องเรียนต่ออีกหลายครั้งมาก
จนเจ้าหน้าที่เห็นว่าถ้าไม่ทำอะไร เขาก็ต้องมีความผิด
ฐานเป็นเจ้าพนักงานไม่ปฏิบัติหน้าที ก็เลยมาดูแลจัดการเรื่องนี้
ผลปรากฏตามข่าวที่เคยเสนอไปแล้ว
บ้านของเขาเองก็ปลูกก่อสร้างอยู่ในเขตป่าไม้เช่นกันและได้ขุดสระน้ำตัดต้นไม้
ซึ่งที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่เขตป่าสงวน ก็เลยโดน กรรมสนองกรรม และก็มีคดีแถมไปอีก
บังเอิญเจ้าหน้าที่ไปพบสายเคเบิลของบริษัทTOT วางกองอยู่จำนวนมาก
เลยโดนข้อหายักยอกทรัพย์ทางราชการอีกกระทง
เรื่องนี้จะผิดจะถูกต้องอย่างไรเกี่ยวกับสายเคเบิล
ผู้เขียนไม่ทราบคงต้องไปว่ากันในศาลอีกที กรรม ให้ทุกแก่ท่านทุกนั้นถึงตัว
เป็นเพราะความโง่หรือความฉลาด แต่คิดว่าน่าจะเกิดจากความบ้ามากกว่า
ส่วนทางสำนักก็ว่าไปตามกฎหมายผู้ร้องเรียนเรื่องป่าไม้
ก็ต้องตรวจยึดพื้นที่ทำเรื่องถึงอธิบดี ว่ากันไปตามเนื้อผ้า
พระอาจารย์ก็ต้องย้ายออกจากที่ ญาติโยมสงสารท่าน ก็เลยไปขอซื้อที่ดินในเขตอำเภอมวกเหล็ก
ถวายให้ท่านสร้างวัดใหม่ ท่านก็เลยรับไว้และท่านบอกว่า ลองสร้างดูอีกสักที บุญมันทำยาก
แต่ไม่ยากเกินความพยายามของเราหรอก
ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด
แต่เรื่องราวจริงๆก็ถูกเปิดเผยออกมา จากการสืบทราบประวัติ
ชายผู้นี้เป็นคนค่อนข้างมีฐานะดีและมีภรรยาเป็นเจ้าของร้านขายอัญมณี อยู่ในกรุงเทพฯ
ต่อมาได้มาซื้อที่ดินซึ่งเป็นที่ดิน สปก.4-01(ซื้อขายผิดกฎหมาย) และได้สร้างบ้านพักไว้หลังหนึ่งราคาเกือบถึงล้านเพราะหลังใหญ่มาก
จ้างคนมาทำฟาร์มเลี้ยงวัวนม แต่เนื่องจากชายคนนี้ชอบเที่ยวและไปติดผู้หญิงคนหนึ่งแต่ตัวเองไม่มีเงินเพราะขาดทุนจากธุรกิจและไม่มีเวลามาดูแลฟาร์ม
จึงเกิดการขาดทุนเรื่องการทำฟาร์มอีก พอมาช่วงหลังๆ พอดีพระอาจารย์สาครธุดงค์มาปักกรดแถวที่ของแก่
แก่ก็เลยทำใจบุญยกให้ท่านอยู่ในเขตพื้นที่ โดยยกโรงเลี้ยงวัวให้เป็นศาลาและให้โรงฟางเป็นที่พักรับแขกและห้องพักผ่อนเก็บของ
แต่ต่อมาเมื่อท่านเริ่มมีชื่อเสียงมีญาติโยมหานำผ้าป่าฯกฐินมาถวาย
เงินเริ่มเข้าสำนัก ชายคนนี้ก็ขอเป็นผู้ดูแลเงินทองเอง
โดยขอให้ท่านโอนเงินที่ได้มาทั้งหมดเข้าบัญชีของตน
แต่พระอาจารย์เมื่อได้เงินจากผ้าป่าฯก็ไม่โอนกลับเอาไปก่อสร้างบูรณะศาลาทำโรงครัว
จึงเป็นสาเหตุสร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงมาทวงถาม เรื่องเงินหลังจากญาติโยมที่นำผ้าป่าฯมาถวายกลับไปหมดแล้ว
แต่เนื่องจากพระอาจารย์กำลังยุ่งกับการเก็บสิ่งของที่ญาติโยมมาถวายช่วงผ้าป่าฯเลยไม่ทันฟังคำทักทวงเรื่องเงินและก็ไม่ได้พูดอะไร
สร้างความอึดอัดไม่พอใจเป็นอย่างมาก
จึงเป็นสาเหตุหาเรื่องที่จะเอาออกจากสำนักให้ได้
เพราะมีฆราวาสนุ่งขาวอยู่วัดใกล้ๆบอกจะเอาพระมาอยู่เอง และจะช่วยดูแลให้
จากนั้นมาตาผ้าขาวใจบาปก็คอยส่งข่าวให้ชายผู้นี้ที่อยู่ทางกรุงเทพฯเป็นประจำ และสุดท้ายของเรื่อง
บ้านโดนป่าไม้ยึด ที่ซื้อไม่ถูกต้องก็โดนสปก.ยึด ตัวเองก็ต้องไปขึ้นศาลสู้คดี
คงไม่พ้นคุกแน่ๆ นี้แหละเขาว่า แคว้งเท้าหาเซียน อยู่ดีดี อยากติดคุก
มนุษย์ผู้มีใจบาป สมควรแล้วกรรมตามสนอง
เรื่องราวของพระอาจารย์สาครรูปนี้ยังมีต่ออีก
ไว้โอกาสหน้าจะมาเล่าให้ฟังใหม่
ญาติโยมคนใดถ้าต้องการที่จะไปทำบุญกับท่านเพื่อสร้างบารมีก็ขอเชิญได้
เพราะช่วงนี้ท่านยังพักอยู่ที่สำนักบ้านไร่ชายเขา
ยังไม่ได้ออกไปสำนักใหม่เพราะรอคำสั่งศาลว่าจะให้ทำอย่างๆต่อไป
หรือต้องการไปสนทนาธรรมกับท่านก็เชิญได้ตลอดเวลาแต่ก็ให้ดี
โทรติดต่อก่อนไปจะได้ไม่เสียเที่ยวเพราะท่านออกไปกิจนิมนต์ต่างจังหวัดอาจไปไม่เจอ
โทร.090-358-5793 แล้วพบกันที่สำนักสงฆ์บ้านไร่ชายเขา สวัสดี........ |