เปิดโปงร่างทรง(ปลอม) ร่างทรง"คนทรงเจ้า"หรือ"คนทรงเจ้า" คำนี้ดูศักดิ์สิทธิ์อยู่ไม่น้อย ถ้าเราไม่สังเกต
จะเห็นว่าคล้ายกันมาก แต่จริงๆแล้วมันแตกต่างกันมาก เรามาพิจารณากัน
-คนทรงเจ้า
ไม่ต้องมีเจ้าหรือองค์อะไรมาประทับทั้งนั้น คนจะทำเองได้
โดยที่คนๆนั้นอาจจะมีความรู้เรื่อง วิชาอาคม วิทยากล สมุนไพร
ดูดวงเป็น(เดาส่งเดช)หรืออาจมีเดรัจฉานวิชา เช่น การทำเสน่ห์ เล่นของ เป็นต้น
สังคมไทยกำลังวิ่งเข้าหาสิ่งเหล่านี้ ตำหนัก สำนักต่างๆในประเทศไทยร้อยละ80-90ทีเดียวที่ผู้คนลุ่มหลงคิดว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
หารู้ไม่คนเหล่านี้ทำเพื่อจะกอบโกยเอาเงินเข้ากระเป๋า อ้างชื่อเทพองค์ต่างๆ
โดยมากจะเป็นองค์ใหญ่ๆ ร่างทรงประเภทนี้เข้าพวก เทพกึ่งเปรตหรือเปรตเดรัจฉาน
อาศัยการพูดจาและการแสดง ที่จะหลอกให้คนอื่นเชื่อถือ
-เจ้าเข้าทรง จะตรงข้ามกับคนทรงเจ้า
องค์เทพจะลงประทับทรงเพื่อสร้างบารมี ร่างทรงจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย
องค์เทพลงมาจริงๆ ตำหนักต่างๆในประเทศไทยคงจะมีไม่ถึงร้อยละ10 องค์เทพจะช่วยบำบัดทุกข์ให้มนุษย์
ไม่กินไม่ขอ ไม่แบ่งชั้นวรรณะ มีแต่จะช่วยเหลือ ร่างทรงจะได้บารมีที่ร่วมสะสมกับองค์เทพ
ร่างทรงจะได้ความช่วยเหลือจากองค์เทพโดยมากจะพอกินพอใช้ ไม่ร่ำรวยมากนัก
ฉะนั้น เราอยากจะถามท่านว่า
ทุกวันนี้ที่ท่านไปตำหนักต่างๆ ท่านเจอ "คนทรงเจ้า" หรือ
"เจ้าเข้าทรง" กันแน่!!
ทำไมต้องมีร่างทรง
เขาว่ากันว่า(อาจจริงหรือเท็จ)ก่อนพระพุทธศักราช
พระศาสนาของตถาคต องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ก่อนที่ท่านจะเสด็จดับขันธ์เข้านสู่พระปรินิพพาน
ท่านจึงได้ตรัสถามกับพระอานนท์ว่าในศาสนาของตถาคต รวมทั้งหมด 5 ,000ปี ใครจะมาทำหน้าที่อะไรบ้าง
พระอานนท์กราบทูลว่า ขอให้พระภิกษุสงฆ์ สามเณร ภิกษุณี นางชีพราหมณ์ อุบาสก
อุบาสิกา เป็นผู้ดูแลและบำรุงพระศาสนา กึ่งหนึ่งเป็นเวลา 2,500ปี พระพุทธเจ้าท่านก็ทรงอนุญาต
แล้วก็ทรงถามต่อไปอีกว่า ใครจะขออะไรบ้าง ปวงเทพทั้งหลาย มี พระอินทร์ พระพรหม
พระยม พระกาฬ และเหล่าเทวดาอารักษ์ทั้งหลาย จึงพร้อมใจกันกราบทูลขอให้ปวงเทพได้ดูแล
และบำรุงพระพุทธศาสนาต่อไปอีกครึ่งหนึ่งของพระอานนท์ คือเป็นเวลาอีก 1,250ปี
ให้พวกเราดูแลจนเสื่อมลงไปจนหมดพอดี 5,000ปี
ตามที่พระพุทธฎีกาได้กำหนดไว้ พอปี 2,500เป็นต้นไปจึงเป็นหน้าที่ของปวงเทพทั้งหลายที่จะดูแลบำรุงศาสนาต่อไปจึงเป็นที่มาว่า
ร่างทรงในปัจจุบันจึงมีมากมาย องค์เทพเป็นเพียงอากาศธาตุ มีเพียงธาตุลม
ดังนั้นจึงต้องอาศัยมนุษย์ซึ่งมีธาตุทั้ง4คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ
มาประทับร่างเพื่อติดต่อกับมนุษย์ได้จุดประสงค์เพื่อจะดูแลและบำรุงพุทธศาสนาเท่านั้น
ถ้าเป็นจริงอย่างที่เขาว่ากันตามที่กล่าวมานี้ เราอยากจะถามท่านว่า
ร่างทรงที่เราพบเห็นกันในปัจจุบัน ได้ทำหน้าที่ ดูแล บำรุงพระศาสนา หรือ
ดูแลทรัพย์สินกระเป๋าตัวเอง กันแน่!!
มีองค์...มีองค์...!
ตามที่บอกกล่าวไว้ว่า องค์เทพเป็นเพียงอากาศธาตุ
องค์เทพแต่ละองค์ ท่านมีความประสงค์จะลงมาสร้างบารมี ช่วยมนุษย์ บำรุงพระศาสนา
ท่านจึงต้องเลือกร่างทรงที่มีคุณสมบัติและความดีงาม มีจิตใจเป็นกุศล
เพื่อท่านจะได้ลงมาโปรดมนุษย์ได้ ท่านจะเลือกคนดี มีบารมีเท่านั้น
องค์เทพชั้นสูงจะไม่มองคนไม่ดี นอกจาก
องค์เทพที่ต่ำชั้นจะเลือกคนไม่ดีเพื่อทำเรื่องไม่ดี
ฉะนั้น จะเห็นว่า เวลาไปตำหนักหรือ สำนักต่างๆ
มักจะถูกทักว่า"มีองค์"ท่านอย่าได้หลงดีใจไป เพราะ
นี่คือก้าวแรกที่จะทำให้ท่านต้องเสียเงินให้ตำหนักนี้อีก ไม่ว่าจะเป็น การรับขันธ์
5 การไหว้ครูประจำปี
เป็นต้น ทางเราเชื่อว่า
ประสบการณ์การถูกทักว่า"มีองค์"ท่านคงได้เจอมาแล้ว แล้วหลังจากนั้น
ท่านไปตำหนักนี้อีกกี่ครั้งล่ะ! เสียเงินไปเท่าไหร่แล้วหล่ะ! แล้วคำถามสุดท้าย
ท่านมีองค์จริงหรือ!.....หรือว่า ถูกหลอก!....
ประเภทขององค์
มี 5 ประเภทด้วยกัน
1.องค์เทพ ท่านจะเลือกคนดีเป็นร่างทรง
เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ จรรโลงศาสนา รายชื่อองค์เทพ เช่น พระศิวะ พระแม่อุมา
พระนารายณ์ พระฤษีในชั้นเทพ เป็นต้น
2.องค์พรหม ท่าจะเลือกร่างทรงที่ปฏิบัติ เคร่งในศีล
มีบารมีมากๆ ยึดมั่นในคุณธรรม เช่น พรหมวิหาร4 มี เมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา
พระพรหมจะช่วยมนุษย์ในการประทานพร รักษาโรค
3.องค์เจ้า เจ้าต่างๆบางองค์มาแสดงอภินิหาร
อวดอิทธิฤทธิ์ ลงมาสร้างบารมี รักษาโรคให้มนุษย์
4.ผี เป็นวิญญาณที่ไม่ยอมไปผุดไปเกิด คอยช่วยดูแล
คุ้มครองป้องกันมิให้เกิดสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม บางครั้ง
เข้าสิงคนเพื่อบอกกล่าวให้รู้ล่วงหน้าในสิ่งที่จะเกิดขึ้น
5.วิญญาณพเนจร ไม่ดี รังแก รบกวน ให้ร้าย
สร้างความเดือดร้อน
เราอยากถามท่านว่า ท่านไปหาร่างทรงตามสำนักต่างๆ
ท่านรู้ไหมว่า องค์ประเภทที่ 4 และ
5 มีมากกว่าร้อยละ
80 ท่านรู้ไหมว่า
ท่านไปเจอร่างทรงแบบไหนกันล่ะ!เทพ พรหม เจ้า หรือผี วิญญาณ
ขันธ์ 5
เมื่อ เราคนธรรมดา
ถูกทักว่า"มีองค์"ก็มักจะได้ยินคำว่า"รับขันธ์"
เพราะร่างทรงหรือลูกศิษย์ในตำหนัก จะบอกว่า ให้รับขันธ์
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว
บางคนก็รับขันธ์เพื่อรักษาโรคให้ตัวคนได้รับบางคนก็ถูกอ้างว่า
จะได้รับครูบาอาจารย์อย่างถูกต้อง เป็นทางสว่าง โดยแต่ละราย ก็ต้องจ่ายค่ารับขันธ์
(อย่างต่ำเท่าที่รู้หรือสัมผัสมา 500บาทขึ้นไป)บางตำหนักแบ่งเป็นรับขันธ์
5 รับขันธ์8,9,10ขันธ์16 จ่ายเงินตามเกรด
โดยถูกหลอกมาเป็นทอดๆ และจริงๆคืออะไรกันแน่
ขันธ์ 5 จริงๆแล้วคือ
ศีล 5 นั้นเอง
เพราะเราไปยึดติดกับพิธีกรรมการรับขันธ์ มากเกินไป
จึงหลงจ่ายเงินให้ตำหนักได้สร้างความร่ำรวยจากการทำขันธ์ไปหลายรายแล้ว
ทางเราของย้ำว่า ไม่จำเป็นต้องรับขันธ์ 5 เลย ถ้าท่านใจสะอาด รักษาศีล 5 มีสัจจะ
สวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ ทำจิตใจให้เป็นสมาธิ หมั่นทำบุญทำทานเป็นประจำ
ปฏิบัติให้ถูกต้อง รับรองว่า
จะเป็นมงคลชีวิตมากกว่าการรับขันธ์จากร่างทรงซึ่งไม่รู้ว่า ร่างทรงปฏิบัติธรรม
ถือศีล5อย่างเคร่งครัดหรือเปล่า
ดังนั้น การไปรับขันธ์ เพื่อจะเปผ็นร่างทรง
หรือจะรับสักการะบูชา หัวใจไม่ได้อยู่ที่การรับขันธ์ ความสำคัญอยู่ที่ศีล 5 ที่เราปฏิบัติต่างหาก
แล้วท่านล่ะ! รับมากี่ขันธ์แล้วล่ะ(ห้า...ห้า...ห้า...)
คู่มือการไปตำหนัก(หาร่างทรง)
องค์เทพไม่ว่า แขก-ไทย-จีน
ล้วนมีฤทธิ์และอนุภาพต่างกัน แต่ฤทธิ์และอนุภาพนั้นจะสัมฤทธิ์ผล
ขึ้นอยู่กับร่างทรงแท้ๆ ไม่เกี่ยวกับองค์เทพ ถ้าร่างทรงดี ปฏิบัติดี องค์เทพก็ขลัง
และนี่คือตำราหรือคู่มือการไปตำหนัก(หาร่างทรง) คุณต้องจำ 10 ประการดังนี้ไว้พิจารณาร่างทรง
ดังนี้
1.จิตใจของผู้เป็นร่างทรงว่ามี จิตใจเมตตา
หรืออยากได้ของของผู้อื่นหรือไม่
2.บุพกรรมของร่างทรงมีมากน้อยเพียงใด
จึงไม่ส่งผลให้เหมือนคนอื่น
3.ร่างทรงมีความขยันหมั่นเพียรในการปฏิบัติตน
ในสิ่งที่บุญมากน้อยเพียงใด
4.ร่างทรงมีวาจาที่สุภาพอ่อนโยน ถ่อมตัว หรือ
หยิ่งยะโส มากน้อยเพียงใด
5.ร่างทรงมีการเป็นอยู่ดีมากน้อยเพียงใด
ในที่นี้มิได้หมายถึงความร่ำรวย
6.ร่างทรงได้รับการสั่งสอนจากบิดามารดา ครูบาอาจารย์มาดีเท่าใด
7.ร่างทรงมีวาสนานากรช่วยเหลือหรือสร้างบุญมากแค่ไหน
มิใช่เห็นคนอื่นได้ดีก็จะต้องทำให้เหมือนคนอื่น
8.ครอบครัวร่างทรงกีดกันหรือขัดขวาง
สนับสนุนมากน้อยเพียงใด
9.ร่างทรงตั้งตนอยู่ในคุณธรรมหรือเล่นการพนันหรือไม่
10.ร่างทรง มีทิฐิมานะมากน้อยเพียงใด
ถ้าท่านพิจารณาครบ 10 ข้อ(ย้ำครบ 10 ข้อแล้ว9,8,7 ข้อไม่ได้นะ!)เห็นดีดีครบ 10 ข้อแล้ว ดิ่งไปเถอะนะ
ตำหนักที่ว่านะ แต่ถ้าไม่รู้อะไรเลยทั้ง 10 ข้อ เก็บตัวอยู่กับบ้านเถอะ
อย่าไปให้ถูกหลอก เสียเงิน เสียทรัพย์เลย...
ลบหลู่เถอะร่างทรงแบบนี้! พวกทรงเจ้า เข้าผี
ปลอมเป็นร่างทรง มี 5 จำพวก
1.พวกเป็นโรคจิต ตื่นตามข่าวลือหรือเหตุการณ์
พวกนี้ไม่มีเทพเจ้ามาเข้า เช่น มีข่าวลือว่ามีต้นไผ่ออกมาเป็นรูปของสมเด็จย่า
ก็มีพวกไปทำทีว่า สมเด็จย่าเข้าทรง เป็นต้น
2.พวกโรคจิตอยากดัง อยากให้คนห้อมล้อมกราบไหว้ เพื่อเรียกร้องความสนใจ
ก็ทำเป็นเจ้าเข้าทรง
3.พวกจิตอ่อน ถูกทักว่ามีองค์ ก็ทำเป็นเวียนหัว
คลื่นไส้ ทั้งที่ไม่มีอะไร
4.พวกจิตมีความโลภ สร้างตำหนักหลอกคน
โดยแสดงเก่งทั้งนั้น
5.พวกจิตมีกรรมติดตัวมา จำใจรับเพราะคนอื่นมอบให้
เช่นถูกหลอกว่ามีองค์ ถ้าไม่รับเป็นร่างแล้วจะเป็นบ้า
เมื่อรับแล้วก็เป็นวิญญาณของผีปอบ แทนวิญญาณขององค์เทพ
ฉะนั้นเราช่วยกันประณาม
หรือลบหลู่ได้เลยถ้าพิสูจน์แล้วว่าเป็นของปลอม!
พิสูจน์ร่างทรงกันไหม...?
ทางเราไปจับผิดมาหลายตำหนัก หลายสำนัก ขอยืนยันว่า
โดยมากจะมีพิรุธ บางทีอาจเป็นร่างทรงเอง บางทีก็ลูกศิษย์เอง พอประมวลได้ดังนี้
1.ก่อนทรง-หลังทรง รู้เรื่องหมดเลยว่า
เราคุยอะไรกับองค์เทพบ้าง ระหว่างทรงก็แกล้งปิดตาตลอด
2.เรียกเงินเราระหว่างทรง บางทีก็เรียกเป็นทอง
แหม่...เทพใช้เงินทอง น่าแปลกใจจัง!
3.ทักจังว่า “มีองค์”เพื่อให้รับขันธ์เสียเงินเพิ่ม
4.แกล้งขู่ว่า “ไม่เชื่อแล้วมาทำไม”ให้เราฝ่อ
และอีกหลายคนในตำหนักเชื่อ ยอมเสียเรา 1 คนเพื่อที่จะได้ลูกค้าอีกเป็น 10
5.บางทีเราแกล้งบอกว่า“ดวงไม่ดี”(ทั้งที่เราไปลองของ)เรียก “สะเดาะเคราะห์”ทันทีเลยแฮะ!
6.อวดจังว่าช่วยมาหลายคนแล้ว ช่วยได้ ช่วยได้
ช่วยไม่ได้ไม่เห็นเล่าให้เราฟังบ้างเลย!
7.อ้าง ตำรวจ ทหารผู้ใหญ่ มาเฝ้าเทพที่ตำหนักนี้
แต่ไปทีไรหน้าเดิมทุกที
8.พูดคำ ด่าคำ เทพหยาบคายจัง
ทำไมเทพอยู่สูงแต่พูดจาต่ำจังเลยนะ!
9.บอกชีวิตเราว่า “มืดตลอด”ต้องทำพิธีถวายเทียน
สารพัดรูปแบบที่ต้องจ่าย
ถ้าท่านเจอแบบ 9 ข้อแรก เชื่อเถอะ...ว่า“เทียม”
เห็นว่าในนี้อาจจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยครับ
เว็บมาสเตอร์ถ้าเห็นว่าไม่เหมาะสมลบได้ครับ
(ไม่ต้องเกรงใจ ตามกติกา)
ที่มาข้อความจากเว็บไซด์:
http://bbznet.pukpik.com/scripts2/view.php?user=unclewan95&board=6&id=18&c=1&order=numview |